ฮ่องกงไม่ควรไปเดือนไหน และมีที่เที่ยวอะไรบ้าง

เมื่อพูดถึงฮ่องกง หลายคนคงนึกถึงเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสน่ห์อันหลากหลาย ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง อาหารเลิศรส และสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย แต่คำถามคือ “ฮ่องกงควรเที่ยวเดือนไหน” และ “มีช่วงไหนที่ไม่ควรไป?” วันนี้เราจะมาช่วยไขคำตอบ พร้อมแนะนำสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด รวมถึงแนะนำบริการ เช่ารถ ฮ่องกง ที่ช่วยในการเดินทางของคุณ

 

ฮ่องกงไม่ควรไปเดือนไหน?

ถึงแม้ว่าฮ่องกงจะเป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่อาจไม่เหมาะนัก เนื่องจากสภาพอากาศหรือความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในบางช่วง เช่น:

  1. เดือนมิถุนายน-กันยายน (ฤดูมรสุม)
    • ช่วงนี้ถือเป็นฤดูฝนของฮ่องกง โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่ฝนตกชุกที่สุด และอาจมีพายุไต้ฝุ่นทำให้การเดินทางไม่สะดวก
    • หากจำเป็นต้องเดินทางช่วงนี้ แนะนำให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวไว้เสมอ
  2. เทศกาลตรุษจีน (ปลายมกราคม-ต้นกุมภาพันธ์)
    • ช่วงนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง แต่ก็เป็นช่วงที่ร้านค้าและสถานที่บางแห่งปิดทำการเพื่อร่วมฉลอง นอกจากนี้ยังเป็นช่วง High Season ทำให้ที่พักและตั๋วเครื่องบินราคาสูงกว่าปกติ

 

ฮ่องกงควรไปเดือนไหนดีที่สุด?

การเที่ยวฮ่องกงสามารถแบ่งตามฤดูกาลที่เหมาะสมได้ดังนี้:

  1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)
    • อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 17-26 องศาเซลเซียส
    • เหมาะสำหรับการเดินชมเมือง ถ่ายรูป และสัมผัสธรรมชาติ บางวันอาจมีฝนบ้างแต่ไม่มาก
  2. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)
    • อากาศกำลังดี ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 19-28 องศาเซลเซียส
    • เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการถ่ายรูปและเดินเล่นอย่างที่สุด
  3. ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
    • อากาศหนาวเย็น 12-20 องศาเซลเซียส บรรยากาศโรแมนติก และยังเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง เช่น คริสต์มาสและปีใหม่

 

สถานที่ท่องเที่ยวในฮ่องกงที่คุณห้ามพลาด

1. วิคตอเรียพีค (Victoria Peak)

จุดชมวิวที่สูงที่สุดในฮ่องกง ให้คุณได้ชมทัศนียภาพเมืองและอ่าววิคตอเรียในมุมมองพาโนรามา การขึ้นไปด้วยรถราง Peak Tram เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะช่วงค่ำคืนที่ไฟระยิบระยับของเมืองทำให้ที่นี่สวยงามมากเป็นพิเศษ

2. ดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกง (Hong Kong Disneyland)

สวนสนุกชื่อดังที่เหมาะสำหรับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น ขบวนพาเหรด หรือโซนใหม่ ๆ ที่อัปเดตอยู่เสมอ ช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่สวนสนุกนี้มีการประดับประดาแสงไฟสุดอลังการ

3. นองปิง 360 (Ngong Ping 360)

กระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในฮ่องกง เชื่อมต่อไปยังพระใหญ่เทียนถานและหมู่บ้านนองปิง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและวิวทะเลอันกว้างใหญ่

4. ย่านมงก๊ก (Mong Kok)

แหล่งช้อปปิ้งและตลาดกลางคืนยอดนิยม เต็มไปด้วยร้านค้า สตรีทฟู้ด และของที่ระลึกที่นักช้อปไม่ควรพลาด

5. หาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay)

ชายหาดยอดนิยมที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนริมทะเล บรรยากาศเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักมาชมพระอาทิตย์ตกดิน

6. ตลาดกลางคืนเทมเปิล สตรีท (Temple Street Night Market)

สถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสวัฒนธรรมฮ่องกงผ่านตลาดกลางคืน พบกับของกินอร่อย ๆ และสินค้าให้เลือกช้อปมากมาย

7. วัดหว่องไทซิน (Wong Tai Sin Temple)

วัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรในเรื่องโชคลาภ สุขภาพ และความรัก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวและชาวฮ่องกงนิยมมากราบไหว้

8. สวนสนุกโอเชียนปาร์ค (Ocean Park)

อีกหนึ่งสวนสนุกชื่อดังที่ผสมผสานระหว่างความบันเทิงและการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเล

9. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง (Hong Kong Museum of History)

สถานที่ที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของฮ่องกงตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

10. อ่าววิคตอเรีย (Victoria Harbour)

จุดที่คุณสามารถล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของเกาะฮ่องกงในยามค่ำคืน พร้อมเพลิดเพลินไปกับการแสดง Symphony of Lights ที่จัดทุกคืน

 

ข้อควรรู้ก่อนเดินทาง

  1. ระบบขนส่งสาธารณะ
    ฮ่องกงมีระบบขนส่งที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น MTR, รถเมล์, รถราง หรือเรือเฟอร์รี่ การใช้บัตร Octopus Card จะช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น
  2. พกแอปพลิเคชันช่วยนำทาง
    เช่น Google Maps หรือแอปขนส่งสาธารณะของฮ่องกง เพื่อช่วยวางแผนเส้นทาง
  3. เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล
    อย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

 

คำถามที่พบบ่อย

  • ฮ่องกงไปเที่ยวเดือนไหนดี?
    ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่เหมาะที่สุด เพราะอากาศเย็นสบายและท้องฟ้าสดใส
  • ฮ่องกงไม่ควรไปเดือนไหน?
    เดือนมิถุนายน-กันยายน เนื่องจากเป็นฤดูมรสุม มีฝนตกชุกและเสี่ยงพายุไต้ฝุ่น
  • ควรหลีกเลี่ยงช่วงไหน?
    เทศกาลตรุษจีน เพราะที่พักและตั๋วเครื่องบินมีราคาสูง และบางสถานที่ปิดทำการ

 

6 สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ เช่ารถ ฮ่องกง

การ เช่ารถ ฮ่องกง อาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะในฮ่องกงมีความสะดวกสบายและครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ แต่หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายในการเดินทาง การเช่ารถก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี โดยเฉพาะหากคุณเดินทางเป็นกลุ่มครอบครัวหรือมีเด็กเล็กไปด้วย นี่คือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเช่ารถในฮ่องกง:

1. เงื่อนไขการเช่ารถในฮ่องกง

  • ใบขับขี่: ต้องมีใบขับขี่สากล (International Driving Permit) และใบขับขี่จากประเทศต้นทางที่ยังไม่หมดอายุ
  • อายุผู้ขับขี่: ผู้ขับขี่ต้องมีอายุอย่างน้อย 21-25 ปี ขึ้นอยู่กับบริษัทเช่า
  • เงินประกัน: บริษัทเช่ารถส่วนใหญ่จะขอเงินประกันผ่านบัตรเครดิต ซึ่งจะคืนให้เมื่อไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับรถ

2. ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ

  • ค่าเช่ารายวัน: เริ่มต้นประมาณ 700-1,500 HKD ต่อวัน (ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ)
  • ค่าน้ำมัน: น้ำมันในฮ่องกงมีราคาสูง ควรเตรียมงบประมาณสำหรับค่าน้ำมันเพิ่มเติม
  • ค่าผ่านทาง: ฮ่องกงมีค่าผ่านทางในบางพื้นที่ เช่น อุโมงค์และทางด่วน
  • ค่าจอดรถ: ที่จอดรถในฮ่องกงมีจำนวนจำกัดและราคาแพง โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง

3. เหมาะสำหรับใคร

  • ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังจุดที่ระบบขนส่งสาธารณะเข้าถึงยาก เช่น หมู่บ้านชานเมืองหรือชายหาดที่เงียบสงบ
  • กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งต้องการความสะดวกสบายในการพกพาสัมภาระ
  • ผู้ที่ต้องการเดินทางสำรวจรอบเกาะลันเตา (Lantau Island) เช่น หมู่บ้านชาวประมงไท่โอ (Tai O) หรืออารามโปหลิน (Po Lin Monastery)

4. บริษัทเช่ารถยอดนิยมในฮ่องกง

  • Hertz: ให้บริการรถเช่าหลายประเภท พร้อมเงื่อนไขยืดหยุ่น
  • Avis: เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการรถยนต์ขนาดใหญ่
  • Local Rent-a-Car Services: มีราคาย่อมเยาและเข้าถึงง่าย

5. ข้อดีของการเช่ารถในฮ่องกง

  • ความเป็นส่วนตัว: ไม่ต้องพึ่งพาตารางเวลาของขนส่งสาธารณะ
  • สะดวกในการเดินทางกับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ: สามารถหยุดพักระหว่างทางได้ตามต้องการ
  • สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่: เข้าถึงพื้นที่ที่รถสาธารณะไปไม่ถึง เช่น ชายหาดลับหรือหมู่บ้านห่างไกล

6. ข้อควรระวัง

  • การจราจร: ถนนในฮ่องกงแคบและมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง
  • ค่าจอดรถสูง: หากพักในโรงแรม ควรสอบถามเรื่องค่าจอดรถล่วงหน้า
  • การขับรถเลนซ้าย: ฮ่องกงใช้ระบบขับรถเลนซ้าย เช่นเดียวกับประเทศไทย หากไม่ชินควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

สรุป

ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู แต่การวางแผนเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม กับกิจกรรมที่ต้องการทำจะช่วยให้ทริปสนุกและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสอากาศเย็น ๆ ในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูหนาว หรือเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งในฤดูร้อน ทุกช่วงเวลาในฮ่องกงล้วนมีเสน่ห์ที่น่าค้นหา

 

อ่านบทความเกี่ยวกับการเช่ารถเพิ่มเติม

CATEGORIES

No Responses

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *